หงสาจอมราชันย์ ภาคพิเศษเล่ม4 โปวฟู (ซุนเซ็ก)



     พอมีเวลาได้อ่านหงสาจอมราชันย์เล่มนี้จบพอดี อีกไม่กี่เดือน ก็จะมีเล่ม 6 ออกแล้ว แต่ผมเพิ่งจะได้อ่านเล่ม 4 จบเองก็มาเล่าให้ฟังแบบไม่สปอยด์กันแล้วกันว่าเล่มนี้มีอะไรบ้าง

      ก็คงจะเหมือนทุกๆเล่มของนิยายหงสาจอมราชันย์ ที่เป็นส่วนขยายแต่งเติมเรื่องราวของตัวละครแต่ละตัวแยกออกมาเป็นเล่มเดี่ยวของตัวเอง คราวนี้เป็นคิวของ โปวฟู (ซุนเซ็ก) ทายาทแห่งตระกูลซุน ตระกูลที่เอะอะๆก็จะคุยกับสวรรค์อย่างเดียวเลย เป็นกันทุกรุ่น สำหรับตัวซุนเซ็กเองแล้วอาจจะไม่ได้มีภาคบู๊เท่าไหร่ ดราม่ามองฟ้าทั้งเรื่อง แต่ช่วงกลางเล่มนี่มาครบทั้งบรรยายฉากบู๊ กลศึก การวางแผนแต่จะหนักไปทางวางแผนแบบเฉือนคมมากกว่าเป็นแผนในการรบ ภาคบู๊ไม่มันเท่าลิโป้ แต่มันครบรสจริงๆ

     แนวทางการเขียนก็ค่อยๆพัฒนามาเรื่อยๆ เนื้อหาเริ่มปะติดปะต่อกันไม่โดดไปมามากนักเริ่มได้กลิ่นความเป็นหงสาจอมราชันย์ มากขึ้นเพราะเล่มแรกๆนี่แทบจะยืมแค่ชื่อตัวละครกับโครงเรื่องมาเลย อ่านแล้วเป็นนิยายจีนเรื่องนึงเฉยๆ ในเล่มนี้มีการหักเหลี่ยม ชิงแผ่นดิน หลอกหน้าหลอกหลัง ตามสไตล์หงสาและสามก๊ก มากขึ้น(ถึงแม้เราจะรู้มาก่อนแล้ว เพราะมันเป็นการบรรยายเสริมเข้ากับเรื่องหลังหงสา) 

    แต่สิ่งนึงที่ขัดความรู้สึกผมมากๆ (บางคนอาจจะชอบ) คือการตัดซีนสลับย่อหน้า ระหว่างคนสองคนหรือเหตุการณ์สองเหตุการณ์ อารมณ์ประมาณว่าถ้าจินตนาการว่าเป็นภาพยนต์จะสนุกมาก ตัดสลับนายเอกับลังรบ ขณะที่นายบีพูดแผนศึกกับอีกคนในเมืองหลวง แต่พอเป็นตัวหนังสือ มันสลับไปสลับมาถึงจะมีการใช้ตัวหน้าแยะระหว่างย่อหน้าแล้ว แต่ก็ทำให้งงได้แบบว่ากำลังอ่านมาเพลินๆพอมาถึงช่วงวาร์ปไปๆมาๆตรงนี้ต้องค่อยๆอ่านอย่างช้าๆ 

    กับส่วนหลังๆที่เหมือนเนื้อเรื่องจบไปแล้ว แต่ก็อัดดราม่าต่อ เวิ่นเว้อไปเรื่อยเหมือนจะพยายามให้แง่คิดให้คมคาย แต่บางทีการพยายามตะล่อมกล่อมและพรรณามากไปมันก็เอียนได้เหมือนกัน มีอ่านไวๆข้ามไปพอสมควร แต่ช่วงกลางเล่มสนุกมากพอให้เราอินกับอารมณ์ตัวละครได้เลย (ต้องผ่านช่วงฟากฟ้า สวรรค์ต้นเล่มไปให้ได้ก่อนนะ ฮ่าๆๆ) 


   ก็มาเล่าให้ฟังแบบไม่แง้มเนื้อหาแค่พอประมาณเป็นแนวทางในการตัดสินใจซื้อแล้วกันครับ แต่อย่างว่าถ้าเป็นแฟนหงสาก็ไม่ต้องคิดมาก ซื้อมาเก็บไว้เป็นคอลเลคชั่นเฉยๆก็ยังได้ ^_^ 


ข้อมูลหนังสือจากสำนักพิมพ์ postbook

  • ผู้เขียน: หวังอี๋ซิง
  • ผู้แปล: ม.ประภา
  • ผู้เรียบเรียง: -
  • ISBN: 9789742282721
  • ขนาด: 14.5 x 21 cm
   

ภาษาคือกำแพงจริงๆ

   
     ผมไม่ใช่คนมีการศึกษาสูงอะไร ไม่ได้ทำงานบริษัท แล้วก็ไม่ได้ตั้งใจเรียนมาตั้งแต่เด็ก ก็เลยมองข้ามเรื่องภาษาอังกฤษมาตลอด คือรู้อยู่ว่าถ้าเราคล่องภาษาเราก็จะอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เมื่อไม่โดนด้วยตัวเองก็ยากที่จะเข้าใจ เพราะพื้นฐานแล้วเราก็พอจะแปลประโยคได้นิดหน่อย ฟังซับไตเติ้ลหนังพอคลำทางได้ พูดคุยกับคนต่างชาติก็พอถูไถไปได้บ้าง

     แต่หลังๆเริ่มรู้ตัวว่าตัวเองเป็นคนชอบอ่าน แล้วสิ่งที่ชอบอ่านบางอย่างก็ไม่ได้ดังหรือมีคนสนใจพอที่จะมีคนนำมาแปลไทย ก่อนหน้านี้ก็ใช้ kindle ในการอ่านแต่ต้องมาหาเครื่องยี่ห้ออื่นแทนเพราะต้องพึ่งการอ่านจาก pdf ซึ่งรู้แก่ใจเลยว่าถ้าอ่านภาษาอังกฤษคล่องๆ เรื่องราคาหนังสือใน amazon ไม่ใช่ปัญหาเลย ปัญหาอย่างเดียวคือเราอ่านมันไม่ออกแล้วแปลไม่ลื่นพอจะอ่านให้จบ กว่าจะผ่านไปแต่ละหน้ายากมากๆ

    คงถึงเวลาที่จะต้องมาสนใจภาษาให้มากพอที่จะอ่านหนังสือที่ชอบบ้างแล้วหล่ะ แต่ก่อนเคยมองข้ามเพราะอย่างที่บอกด้านบน แต่ตอนนี้รู้แล้วอยากจะหาข้อมูลอะไรบางครั้งภาษาไทยมันไม่พอ ถ้ามีเด็กๆผ่านมาอ่านเจอก็อยากบอกนะครับว่า ตั้งใจเถอะภาษาอังกฤษ ไม่ต้องคิดไปใช้เรื่องทำงานในอนาคตหรอก บางทีคุณเล่นเกมติด อยากทำเพลง ทำโปรแกรม หรืออะไรที่เป็นเรื่องเล่นๆของคุณ ถ้าคุณอ่านภาษาอังกฤษคล่อง มันจะทำให้คุณศึกษาสิ่งที่คุณรักได้กว้างขึ้นอย่างแน่นอน